*บทความบนเว็บไซต์ Recording Academy จากนักศึกษาของ GRAMMY U กลุ่มองค์กรของนักศึกษามหาวิทยาลัยอายุ 17 - 25 ปีที่อยากทำงานในวงการบันทึกเสียง The Recording Academy จึงสร้าง GRAMMY U ขึ้นมาเพื่อช่วยเตรียมพร้อมให้นักศึกษาเหล่านั้นในอุตสาหกรรมดนตรีผ่านเครือข่าย โปรแกรมศึกษา และโอกาสในการปฎิบัติงาน
“บีทีเอสไม่เคยหลับ พวกเราทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน และเทคโนโลยีที่พัฒนาช่วยให้เราสามารถร่วมงานกับผู้คนได้ทั่วโลก” สมาชิกวงเผยอย่างเป็นกันเองกับ Recording Academy ก่อนคอนเสิร์ตของพวกเขาในเมืองแห่งลม (ชิคาโก เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ รู้จักกันในชื่อ เมืองแห่งลม หรือ Windy City)
“เมื่อเราคิดถึงการวาดภาพ ศิลปินเพียงแค่อธิบายถึงลักษณะหน้าตาของมัน วันเวลาผ่านไปปิกัสโซ่ก็เข้ามา และเริ่มแสดงถึงภาพลักษณ์และความรู้สึก และตอนนี้ด้วยสื่อสังคมออนไลน์ พวกเราสามารถสื่อสารกันผ่านภาพวาด เราสามารถคิดถึงภาพนั้น สามารถพูดถึงมัน และสามารถตั้งคำถาม” - บีทีเอส
ขณะที่ฝูงชนผู้กระตือรือล้นมารวมตัวกันด้วยความตื่นเต้นรอบสนามโซลเจอร์ฟีลด์ก่อนคอนเสิร์ตคืนที่สองของบีทีเอสในชิคาโก้ ยังมีบรรยากาศที่เรียบสงบและน่าหลงใหลภายในที่สัมมนากับนักศึกษา GRAMMY U ชิคาโกช่วงซาวด์เช็คในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม
ช่วงบ่ายเริ่มต้นด้วยการที่เหล่านักศึกษามองดูซาวด์เช็คของบีทีเอสจากด้านบน มองลงมายังวงเกาหลีทั้งเจ็ดคนที่ร้องเพลงสองเพลงแก่แฟนคลับสองพันคน แม้แฟนๆที่วาดสัญลักษณ์ที่ฝ่ามือ และสวมหูแมวอยู่ด้านหน้าเวทีจะกรีดร้องด้วยความสนุกในทุกๆ ท่วงท่าการเต้นที่เร้าอารมณ์และคอนเฟตติที่พลิ้วระยับ นักศึกษาจาก GRAMMY U ยังคงดูเหตุการณ์ในภาพรวม เรียนรู้ถึงวิธีที่การแสดงอันยิ่งใหญ่แบบนี้ถูกผลิตออกมา
เมื่อบีทีเอสและพวกนักศึกษาถูกพาไปยังห้องส่วนตัวไม่นานหลังจากนั้น วงก็ได้แบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานหนักทั้งหมดที่ทำให้การแสดงดำเนินไปอย่างราบรื่น
"บีทีเอสไม่เคยหลับ" บีทีเอสบอกกับ Recording Academy ก่อนคอนเสิร์ตในเมืองชิคาโก้ “พวกเราทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน และเทคโนโลยีที่พัฒนาช่วยให้เราสามารถร่วมงานกับผู้คนได้ทั่วโลก" ในฐานะที่ GRAMMY U ถูกออกแบบมาเพื่อฉลองอนาคตทางดนตรี ดูเหมือนจะเข้ากันที่เดียวที่จะให้นักศึกษาได้เข้าถึงหนึ่งในศิลปินก้าวล้ำที่สุดของวันนี้ วงที่มุ่งมั่นต่อการนิยามหนทางของการโต้ตอบปฎิสัมพันธ์กับแฟนคลับของพวกเขา และนำเพลงของพวกเขาไปสู่ชีวิต
"การที่เพลงและการแสดงของพวกเราได้รับความรักมากมายจากผู้คนทั่วโลก เป็นสิ่งพิสูจน์ว่าภาษาและขอบเขตทางดนตรีกำลังเสื่อมลง และพวกเราก็หวังว่าจะสามารถกำจัดสิ่งกีดกั้นเหล่านั้นต่อไปได้” วงกล่าว “พวกเราพยายามสื่อสารกับผู้ชมบนเวทีเสมอ แม้ว่าสถานที่ทำการแสดงจะใหญ่ขึ้น เราจะทุ่มเทแรงกายแรงใจของพวกเราอย่างที่เคยทำตลอดมา”
ปรากฎการณ์เคป๊อบบีทีเอส (Beyond the Scene) ก่อตั้งวงขึ้นในปี 2013 ในนามบังทันโซยอนดัน ซึ่งแปลออกมาได้ว่า "Bulletproof Boy Scouts" ด้วยสมาชิกวง Jin, Suga, J-Hope, RM, Jimin, V, และ Junkook บีทีเอสเข้าถึงแฟนคลับมหาศาลทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว อาจเทียบเคียงได้กับปรากฎการณ์ Beatlemania ซึ่งการเปรียบเทียบนี้มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า อัลบั้ม MAP OF THE SOUL: PERSONA ของบีทีเอสติดอันดับหนึ่งชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ดสามอัลบั้มในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี ซึ่งเป็นผลงานของหนุ่มๆ จากลิเวอร์พูล (The Beatles) ที่สำเร็จไดักลางทศวรรษที่ 60 แม้จะภูมิใจในความจริงนั้น แต่บีทีเอสก็ไม่มุ่งเน้นไปที่อดีต แต่ทำงานอย่างหนักเสมอเพื่อสร้างสิ่งใหม่เพื่ออนาคต
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการกล่าวเทียบเคียงกับ The Beatles แต่บีทีเอสเป็นแค่บีทีเอส" RM กล่าว
Sep 13, 2018 – 12:42 pm
ความจริงที่ว่าอีเวนท์วันนี้เกี่ยวเนื่องกับ GRAMMY U อย่างที่คาดไว้ ทำให้นึกถึงความนิยมอย่างยิ่งยวดที่เพิ่มเติบโตขึ้นตามปรากฏการณ์เคป๊อปทั่วโลก นักเรียนหลายคนแสดงความสงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างของตลาดต่างประเทศ ถามคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของบีทีเอสที่บุกเข้าวงการเพลงของอเมริกา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็น Biggest Group จากเกาหลีอย่างแท้จริง แต่บีทีเอสต้องการทำให้ชัดเจนว่าพวกเขายังคงโฟกัสที่วงตนเองนั้น "เราไม่ได้เป็นตัวแทนของ K-pop" วงเผย
"เราไม่สามารถนิยามหรือบอกได้ว่ามันคืออะไร แต่ทุกวันนี้ ต้องขอบคุณสื่อสังคมออนไลน์และแฟน ๆ พวกเราโชคดีที่มีโอกาสแบ่งปันคำพูดของเราไปทั่วโลก"
ความแตกต่างที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งวงระบุนั้นเกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของค่ายและขนาดของอุตสาหกรรมเอง ในสหรัฐอเมริกาพวกเขาอธิบายว่า มีทีมแยกเป็นทีมๆ จำนวนมากที่ต้องสื่อสารและทำงานร่วมกัน ในขณะที่ในบ้านเกิดของพวกเขา ค่ายอาจใหญ่กว่าและครอบคลุมมากกว่า "ผมคิดว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ ในเกาหลีมีค่ายเพลงขนาดใหญ่ที่รับคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถพิเศษและช่วยนำทุกสิ่งอย่างมารวมกันให้พวกเขา" พวกเขาบอก
แม้ว่าชิ้นงานทั้งหมดอาจถูกเรียบเรียงในสถานที่เดียวอย่างเช่น Big Hit Entertainment บ้านของบีทีเอส ศิลปินและตัวแทนค่ายจำเป็นต้องพัฒนาทักษะการสื่อสารที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่วงเน้นว่าสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมอุตสาหกรรมนี้ "ศิลปินแต่ละคนมีความชอบและก้าวย่างของตนเอง ซาวด์เอ็นจิเนียร์แต่ละคนก็มีขอบเขตงานศิลปะของตนเอง" SUGA กล่าว
"ทุกสถานที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงมานั่ง มาพบกับซาวด์เอ็นจิเนียร์และทำให้แน่ใจว่าเราสื่อสารกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องละเอียดอ่อน"
ในขณะที่พวกเขาให้ความสำคัญกับเพลง บีทีเอสก็ประจันหน้ากับสังคมอย่างเหลือเชื่อ ก่อให้เกิดผลที่น่าอัศจจรย์ในฐานะผู้ทำการกุศล ในปี 2018 เพียงอย่างเดียว แคมเปญ "Love Myself" ของวงสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐแก่ UNICEF นอกเหนือจากกิจกรรมการกุศลแล้ว แฟนคลับ ARMY นับไม่ถ้วนยังมองบีทีเอสเป็นสิ่งนำทางหรือเรื่องดีๆ นั่นอาจเป็นงานที่ยาก แต่มีหนึ่งวงที่พร้อมเพื่อสิ่งนั้น
"คงเป็นการโกหกถ้าเราบอกว่าเราไม่รู้สึกกดดัน แต่มันก็รู้สึกดีเสมอที่จะได้ยินจากแฟน ๆ ทั่วโลกว่า เพลงของเราเปลี่ยนชีวิตพวกเขา"
“มันทำให้เราคิดอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำ เกี่ยวกับเพลงของเราและเพิ่มความรับผิดชอบลงบนบ่า”
ด้วยแสดงที่น่าตื่นเต้นและได้รับการยอมรับ บีทีเอสเป็นผู้เชิญรางวัลสำหรับอัลบั้ม R&B ยอดเยี่ยมในงาน GRAMMY Awards ครั้งที่ 61 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเดบิวท์ในรายการ SNL เดือนเมษายน จากประสบการณ์ทั้งหมดนี้ วงอธิบายว่าพวกเขายังคงโฟกัสไปที่แฟน ๆ
“ขณะที่ความสำเร็จมีความสำคัญ เราก็หวังว่าจะให้ความสุขของแฟน ๆ เราอยู่เหนือสิ่งอื่นใด" บีทีเอสบอก "จริงๆ แล้ว [Map of the Soul: Persona] เองก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนุกสนานไปกับแฟนๆ ดังนั้นตราบที่เราสามารถสนุกด้วยกัน และมีความสุขกันได้ ผมไม่เห็นว่าจะมีความสำเร็จที่ดีกว่านี้"
แปลบทความจาก Recording Academy
โดยเล่าข่าวบังทัน
Comments